วิธีแก้ปัญหาใต้ตา ที่ไม่ใช่แค่การฉีดฟิลเลอร์

วิธีแก้ปัญหาใต้ตา ที่ไม่ใช่แค่การฉีดฟิลเลอร์

วิธีแก้ปัญหาใต้ตา ที่ไม่ใช่แค่การฉีดฟิลเลอร์

การแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา : มีทางเลือกหลากหลาย

ร่องลึกใต้ตาเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนประสบพบเจอ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลีย ไม่สดใส การแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตาในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี รวมถึงเทคนิคที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาทำความรู้จักกับวิธีต่าง ๆ ในการแก้ปัญหานี้กันครับ

 

1. การฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็งเพื่อพยุงเส้นเอ็น

ฟิลเลอร์เนื้อตัวแข็งจะช่วยยกและพยุงโครงสร้างผิวหนัง โดยเฉพาะใต้เส้นเอ็น ทำให้ร่องลึกใต้ตาดูลดลงและผิวหนังมีความหนามากขึ้น

2. การฉีดฟิลเลอร์เนื้อปานกลางชั้นไขมันใต้กล้ามเนื้อ

ฟิลเลอร์จะถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มร่องใต้ตา สามารถฉีดในตำแหน่งไขมันใต้กล้ามเนื้อตา (SOOF) โดยการฉีดในตำแหน่งนี้จะช่วยยกผิวและลดร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ใต้ตาดูสดชื่นมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และจะไม่รบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อ ไม่ทำให้เกิดก้อนเวลายิ้ม

3. การฉีดฟิลเลอร์ตัวอ่อนและละเอียดสุด

ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีความละเอียดและอ่อนนุ่ม เหมาะสำหรับการเติมในบริเวณที่ผิวหนังบางและตื้นที่สุด เพื่อเก็บงานให้ร่องใต้ตาเนียน แต่ต้องฉีดอย่างระมัดระวังและกระจายยาให้ทั่ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดก้อนหลังเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง

4. การฉีดคอลลาเจนไบโอสติมูเลเตอร์ (Collagen Biostimulator)

การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนจะเพิ่มการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนัง ทำให้ผิวหนาขึ้น ลดร่องลึกและทำให้ผิวแข็งแรง ลดรอยดำได้จากการลดการมองเห็นเส้นเลือดใต้ตาทะลุผิวหนังที่บาง

5. การตัดไขมันและเย็บถุงใต้ตา โดยการผ่าตัด

การผ่าตัดเล็กที่ช่วยลดร่องใต้ตาและถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตัดไขมันและเย็บผิวหนังให้กระชับ วิธีนี้เหมาะสำหรับเคสที่ผิวหนังเกินมาก ๆ หรือมีไขมันถุงใต้ตาเยอะจากการที่กระดูกทรุด ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์อย่างเดียว

6. การกระชับผิวด้วย Fractional RF (Radiofrequency)

การใช้เทคโนโลยี RF ส่งพลังงานเข้าไปในชั้นผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการบาดเจ็บเล็กๆ ทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น

7. การลดริ้วรอยจากการขยับด้วย Botox

การฉีด Botox จะช่วยลดการขยับของกล้ามเนื้อรอบดวงตา ลดริ้วรอยและทำให้ใบหน้าดูสดชื่นขึ้นการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด

Copyright © 2023 drohclinicnan.com All Rights Reserved.